วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

วันที่สิบสอง@บ้านเขียว :::: วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557

สิ่งที่เรียนรู้ : สุขภาพและความปลอดภัยของเด็ก

ความคิดเห็นที่มีต่อสิ่งที่เรียนรู้ : เนื่องจากช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย การดูแลรักษาสุขภาพเด็กจึงเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งเพราะเด็กในวัยนี้จะมีภูมิคุ้มกันน้อย สามารถรับเชื้อโรคต่างๆเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย

ทฤษฎี/แนวคิดที่เกี่ยวข้อง : ปัญหาด้านสุขภาพ
ลักษณะของเด็กที่มีปัญหาด้านสุขภาพมีหลายสาเหตุดังนี้
  • ขาดสารอาหารและเติบโตช้า
  • ร่างกายอ่อนแอ เจ็บไข้ได้ป่วยได้ง่าย
  • เป็นโรคอันเกิดจากการติดเชื้อ
  • มีโรคแทรกซ้อน
  • มีอาการแพ้ หรือเป็นโรคภูมิแพ้
  • อาเจียน
  • มีอาการชัก
  • หมดสติ
  • หยุดหายใจ
  • โครงสร้างร่างกายและพัฒนาการด้านต่างๆ ไม่สมวัย
  • มีปัญหาทางสุขภาพเรื้อรัง
    โรงเรียนเป็นสถานที่แพร่เชื้อโรคแหล่งสำคัญแหล่งหนึ่งสำหรับเด็ก ทั้งนี้เพราะเด็กมาจากหลากหลายครอบครัว ซึ่งต่างคนอาจมีปัญหาสุขภาพที่ต่างกัน แต่ก็สามารถแพร่กระจายเชื้อโรคสู่กันและกันได้ นอกจากนี้เด็กยังจำเป็นต้องทำกิจ กรรมที่ต้องปฏิสัมพันธ์กันโดยใกล้ชิด ซึ่งการแพร่เชื้อโรคก็พร้อมจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นครูจึงมีบทบาทสำคัญในการป้องกัน ช่วยเหลือ หรือแก้ไขปัญหาสุขภาพและความปลอดภัยในเด็กปฐมวัยเป็นอย่างยิ่ง และเพื่อให้การเรียนรู้ของเด็กที่โรงเรียนมีความเสี่ยงน้อยที่สุด ครูอาจดำเนินการตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
  • จัดเตรียมอุปกรณ์ปฐมพยาบาลให้พร้อมในทุกห้องเรียน
  • เข้ารับการฝึกอบรมการปฐมพยาบาล และการช่วยฟื้นคืนชีพ (CPR)
  • ฝึกซ้อมสถานการณ์จำลอง เพื่อความพร้อมของบุคลากรภายในโรงเรียนในการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ
  • ตรวจสอบสภาพอุปกรณ์ภายในห้องเรียนเป็นประจำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
  • ตรวจสอบห้องเรียนและพื้นที่โดยรอบโรงเรียน โดยหากมีจุดที่อาจเป็นอันตรายต่อนักเรียน ครูควรแจ้งฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการแก้ไข
  • เมื่อจะนำนักเรียนประกอบกิจกรรมใดๆ ครูควรเฝ้าระวังให้เด็กอยู่ในสายตาตลอดเวลา รวมถึงเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนล่วงหน้า เมื่อต้องเริ่มทำกิจกรรมใหม่ที่ไม่เคยทำมาก่อน เช่น สอนให้เด็กรู้จักวิธีการใช้ รวมถึงลองใช้เครื่องมือในการเพาะปลูก ก่อนที่จะให้เด็กลงมือเพาะปลูกจริง
  • สอนให้เด็กรักษาความสะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการล้างมืออย่างถูกวิธี ทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหาร รวมถึงหลังจากทำกิจกรรมที่ต้องใช้มือเป็นหลัก
  • คำนึงถึงการรับมือกับสภาพภูมิอากาศ เช่น หากอากาศร้อนและนักเรียนจำเป็นต้องทำกิจกรรมนอกห้องเรียน ควรจัดให้นักเรียนสวมหมวก เป็นต้น
  • ศึกษาข้อมูลทางด้านสุขภาพของนักเรียนทุกคน เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการ และข้อจำกัดที่ต่าง กันของเด็กแต่ละรายได้อย่างเหมาะสม
  • เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำลายสุขภาพและร่างกายของนักเรียนนั้นมีหลากหลายประการ อีกทั้งยังอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นครูจึงควรร่วมมือกับผู้ปกครอง รวมถึงแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานในชุมชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาหน ทางในการลดและควบคุมปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว










แนวทางปฏิบัติจากความรู้ใหม่ :  ในการป้องกันไม่ให้เชื้อโรคจากเด็กคนหนึ่งแฟร่ไปหาเด็กอีกคนหนึ่งนั้นครูสามารถทำได้โดยวิธีการต่างๆ เช่น
1. ตรวจอาการเด็กแต่ละคนในช่วงเวลาที่เข้าโรงเรียน/ห้องเรียน หากมีอาการ ไอ จาม มีน้ำมูกก็ต้องพาไปรักษา
2.หากเด็กอยู่ในห้องเรียน เด็กยังมีอาการควรแยกเด็กออกจากเพื่อนๆ /พาไปห้องพยาบาล / โทรให้ผู้ปกครองมารับ เพื่อป้องกันการติดเชื้อโรค
3.ครูหมั่นให้เด็กล้างมือ เพื่อรักษาความสะอาดและป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายอีกทางหนึ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น